Pilates Reformer Group Class พิลาทิสกรุ๊ปคลาส The Balance Pilates & Physio เราเปิดสอนพิลาทิสทั้งแบบ Pilates Reformer Group Class และ Private Class มากว่า 6 ปี โดยเน้นไปทางการแพทย์ (กายภาพบำบัด) เพื่อการฟื้นฟูบำบัด ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อชั้นลึก ในส่วนของ Core muscel (แกนกลางของร่างกาย) ด้วยเครื่องรีเฟอเมอร์ Reformer ซึ่งนำมาใช้สอนใน Group Class เป็นหลักและเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนแรง คนที่เริ่มต้น มือใหม่หัดออกกำลังกาย การเรียนพิลาทิสในกรุ๊ปคลาสของเราจะเป็นแบบ Multi level คือ การเรียนรวมกันแบบไม่ได้แบ่งแยกสำหรับผู้เรียนต้นหรือเรียนมานานแล้ว ฉะนั้นท่าออกกำลังกายที่ครูผู้สอนจะให้นักเรียนได้ฝึกจะมีความยากง่ายต่างกัน แต่สามารถเรียนไปพร้อมๆกันได้เพราะในแต่ละท่าจะมี Level ความยากง่ายในตัวและสามารถปรับสปริงหนักเบาได้ ใครที่แข็งแรงครูผู้สอนจะเพิ่มความยากของท่าเพื่อให้ร่างกายได้เชื่อมโยงกันมากขึ้น เบริ์นได้มากขึ้น และเพิ่มศักยภาพของตนเองได้มากขึ้น ส่วนใครที่ทำท่ายากยังไม่ได้หรือไม่ทันครูผู้สอนก็จะมีการปรับท่าหรือน้ำหนักของสปริงให้ได้ตามความเหมาะสม พร้อมการดูแลแบบใกล้ชิด แต่ทั้งนี้กรุ๊ปคลาสจะไม่แนะนำ สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย เช่น โรคหัวใจ หรือผู้ที่มีปัญหาของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อที่ต้องได้รับการดูแลเฉพาะทาง เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคกระดูกสันหลังคด หรือผ่าตัดมา เป็นต้น สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ หรือมีโรคประจำตัว ควรได้รับการตรวจประเมิน รับคำปรึกษาจากแพทย์ประจำตัว หรือสามารถนัดตรวจประเมินร่างกายกับนักกายภาพบำบัดของทางสตูดิโอได้โดยตรงโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทำได้นัด ที่นี่ Pilates Private Class พิลาทิสไพรเวท เรียนแบบตัวต่อตัว Pilates Private Class พิลาทิสไพรเวท คือ การเรียนแบบตัวต่อตัว หรือแบบส่วนตัวนั้นเอง จะช่วยให้ผู้ฝึกมีสมาธิมากกว่า สอนโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนพิลาทิสช่วยดูแล ออกแบบโปรแกรม เพื่อใช้สอนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ และช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และเฉพาะตัวกว่าการเรียนแบบกรุ๊ปคลาสโดยทั่วไป ทำให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาเรียนรู้ร่างกายและจิตใจของตนเอง โดยปราศจากสิ่งรบกวน พร้อมได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดทุกท่วงท่า The Balance Studio เราเน้นสอนพิลาทิส Pilates Private Class ไปทางการแพทย์ (กายภาพบำบัด) เพื่อการรักษา ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อชั้นลึก ในส่วนของ core muscel (แกนกลางของร่างกาย) ด้วยการเรียนรวมอุปกรณ์ทุกชนิด ซึงการเรียนกับอุปกรณ์นี้จะเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่อ่อนแรง คนที่เริ่มต้น มือใหม่หัดออกกำลังกาย หรือคนที่มีอาการบาดเจ็บ ผ่าตัดมา เป็นการสร้างกล้ามเนื้อ กระตุ้นกล้ามเนื้อมัดใน มัดเล็กที่เราไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ครูผู้เชี่ยวชาญจะออกแบบท่าทางการเคลื่อนไหว ผสมผสานกับการใช้เครื่องที่ทำให้ได้ออกกำลังในกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ช่วยให้ร่างกายฟิต & เฟิร์มแบบทั้งตัว หรือเฉพาะจุด ลดอาการปวดหลัง ออฟฟิศซินโดรม กระดูกสันหลังคด และอาการปวดของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย แม้กระทั้งคนท้อง และผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ก็สามารถฝึกได้ เพราะมีความปลอดภัย และมีประสิทธภาพสูงมาก แพทย์ตามโรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่แนะนำ Pilates for Parkinson หลายๆคนอาจสงสัยว่า คนที่เป็นโรคพาร์กินสันสามารถเล่นพิลาทิสได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ค่ะ แล้วดีมากๆด้วย ถ้าคุณครูผู้ฝึกสอนมีความเข้าใจในตัวโรค ก่อนอื่นมาทำความรู้จักโรคพาร์กินสันกันพอสังเขปนะคะ โรคพาร์กินสัน เป็นโรคของความผิดปกติและการเสื่อมถอยของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน (ในที่นี้จะกล่าวถึงเรื่องผลกระทบเฉพาะที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวนะคะ) ผู้ป่วยเองจะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ดี มีอาการสั่นเกร็ง ตามแขนขา หรือลำตัว การทรงตัวไม่มั่นคง ข้อต่อต่างๆจะเริ่มมีการล็อค สูญเสีย Mobility ในข้อต่อนั้นๆไป สิ่งที่ตามมาทางร่างกาย สืบเนื่องมาจากข้างต้น คือผู้ป่วยจะมีท่าเดินที่ผิดปกติ เหมือนซอยเท้าสั้นๆ มักจะมี Posture ที่ค่อมช่วงอก คอยื่น รวมไปถึง Mobility ของหัวไหล่ลดลง ข้อต่อสะโพกและกระเบนเหน็บฝืด รวมไปถึงข้อเท้า ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ผู้ป่วยไม่อยากเดิน ไม่อยากเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากทำให้เกิดความเจ็บปวด ความยากลำบาก และใช้พละกำลังมากตามมาค่ะ แต่ข่าวดีก็คือ สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสันไม่เกิน stage 3 ยังพอควบคุมร่างกายได้ แม้จะต้องการความช่วยเหลือในบางครั้ง หากมีการขยับร่างกายแบบพิลาทิส จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทในการเคลื่อนไหวให้ค่อยๆเรียนรู้ แล้วตอบสนองดีขึ้นในส่วนการเคลื่อนไหวนั้นๆ ผู้ป่วยเองสามารถบังคับร่างกายได้ดีขึ้น (มากน้อยต่างกันตามบุคคล) เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกระเบนเหน็บไม่ติด ลดโอกาสการเร่งให้เกิดความเสื่อมของข้อต่อ เมื่อเริ่มบังคับร่างกายได้ดีขึ้น มีความแข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยพาร์กินสันเองอยากขยับเคลื่อนไหวมากขึ้น อาการฝืดของข้อต่อที่ติดลดลง ก็จะสามารถชะลอความเจ็บปวดซึ่งเกิดจากข้อต่อที่เสื่อมได้อีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรสอบถามให้ละเอียดถึงยาที่ใช้ เพราะยาบางชนิดส่งผลต่อการควบคุมร่างกาย หรือทำให้เพลียหลับ ซึ่งควรระวังเป็นอย่างมาก รวมไปถึงความพอดีของการออกกำลังกาย เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมโรค จากประสบการณ์ตรงของจิเอง ถ้ามันพอดี ถูกต้อง ผู้ป่วยจะเดินมากขึ้น มั่นใจ แล้วรู้สึกตัวเบาๆ กระฉับกระเฉงขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ จิตใจที่แจ่มใสขึ้นด้วยนะคะ ส่วนระยะเวลาที่เริ่มตอบสนองได้ดีกับพิลาทิสขึ้นอยู่ตามแต่ละบุคคลค่ะ